ความเสถียร(Stability) คือประเด็นที่สำคัญในการผลิต ชิ้นส่วนที่ผลิตต้องทำตามสเปคที่กำหนดเพื่อให้ง่ายในการประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ความไม่เสถียรสร้างปัญหาคุณภาพที่ลูกค้าต้องมาจัดการเราในภายหลังแน่นอน
ส่วนใหญ่มีหลายๆขั้นตอนทำงานต่อๆกันที่เมื่อมีการแตกแถว(ไม่เสถียร)เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบต่อสายการผลิตทั้งหมดแล้ว ลองอ่านสี่ความท้าทายกับการจัดการความเสถียรและจะจัดการกับมันอย่างไร
Bonus Video – เรียนรู้วิธีแก้ปัญหาความเสถียรในการผลิตด้วยกระบวนการทีละขั้นตอนโดยใช้เครื่องมือที่ดีที่สุดในปัจจุบัน. Watch this webinar video now: The Modern Toolkit for Process Excellence
1. ปัญหาค่าพิกัดเผื่อ (A Problem of Tolerance)
พบบ่อยมากที่ไม่สามารถกำจัดความผันแปรให้หมดไปได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นค่าพิกัดเผื่อ(tolerances)ที่แคบเป็นสิ่งที่ยากต่อการจัดการและไปเพิ่มต้นทุนขั้นสุดท้าย ถ้าประเด็นนี้ไม่ได้นำไปพิจารณาอย่างจริงจังตั้งแต่เริ่มต้นหรือช่วงการออกแบบ การผลิตจะต้องดิ้นรนเพื่อที่จะให้บรรลุตามที่หวัง
เนื่องจากห่วงโซ่อุปทาน(Supply Chain)ส่วนใหญ่ขยายไปในหลายประเทศและผู้จัดส่ง(Supplier)ต่างแข่งขันกันเพื่อให้ได้คำสั่งซื้อมาจากคำสั่งกลุ่มใหญ่ เกณฑ์ในการจัดอันดับผู้จัดส่งที่สำคัญคือการคงความสามารถในการผลิตภายในสเปคที่กำหนดได้เป็นอย่างดีกับพารามิเตอร์ที่สำคัญๆที่พิจารณา
2. ความเสถียร์(Stability) = ความได้เปรียบในการแข่งขัน(Competitive Advantage)
หลายๆบริษัทให้การสนับสนุนผู้จัดส่งของพวกเค้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อสิ่งที่ดีกว่าการควบคุมความเสถียรของกระบวนการผลิตของพวกเขา ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ขาดความเสถียรจะเพิ่มขึ้นๆเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาได้ส่งผ่านสินค้าจากผู้ขายไปยังผู้ขายและถึงลูกค้าคือมันจะเป็นของเสียที่ถูกตรวจพบอย่างมากมายภายหลังกระบวนการผลิต
ทำไมสิ่งนี้ถึงเป็นความน่าเชื่อถือ ผู้จัดส่งสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่ง สร้างความสัมพันธ์ที่ทำกำไรได้ในระยะยาวกับลูกค้ารายใหญ๋
3. การร่วมมือกันของทุกแผนกเป็นสิ่งจำเป็น (Collaboration by Departments is Essential)
การปรับปรุงความเสถียรส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนยุ่งยาก ในการระบุปัจจัยที่สำคัญๆไม่กี่ตัวที่กระทบความความผันแปรและแยกมันออกมาจากปัจจัยเล็กๆน้อยๆหลายๆตัว
การแก้ปัญหาเช่น ปัญหาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการได้รับความร่วมมือจากหลายๆแผนก :
- แผนกผลิต(Production)
- แผนคุณภาพ(Quality)
- แผนกออกแบบ(Design)
- และแผนกอื่นๆ
…ปกติแล้วมักจะรับรู้ปัญหาความเสถียรของกระบวนการแตกต่างกันออกไป
เพื่อแก้สถานการณ์ที่แต่ละแผนกพยายามดำเนินการตามแนวทางของตัวเองที่แตกต่างกันในแต่ละทีม
โดยปกติสิ่งเหล่านี้มันถูกเก็บไว้ในไฟล์เอ็กเซลด้วยการคำนวณและวิธีการที่ไม่ได้ถูกรับรองแบบทั่วทั้งองค์กร
การทำแบบนี้เห็นได้ชัดว่ามีแนวโน้มที่ระดับความร่วมมือกันจะลดลง
4. การสร้างมาตรฐาน(Standardization) กับธรรมชาติของคน(Human Nature)
การแชร์ความคิดข้ามทีม การทำงานร่วมกันในการมองหาแนวทางที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหาที่เป็นประเด็นซับซ้อนยุ่งยาก โดยใช้ข้อมูลและความจริงเป็นพื้นฐาน การใช้ความแข็งแกร่งและวิธีการที่มีพลังในการค้นหาแหล่งสำคัญของความผันแปรและลดผลกระทบของมันต้องการการสร้างมาตรฐานและเครื่องมือในการตรวจสอบความถูกต้อง
แย่ตรงที่ธรรมชาติของคนมีความเอนเอียงซึ่งทำให้เกิดปัญหาและความสับสนให้กับทีม:
- การข้ามไปยังแนวทางแก้ไขก่อนที่ปัญหาและขอบเขตจะได้รับการกำหนดอย่างครบถ้วน
- ดำเนินการแก้ปํญหาถัดไปเร็วเกินไป โดยยังไม่แน่ใจเลยว่าผลประโยชน์เริ่มต้นที่ได้รับยั่งยืนหรือไม่หลังจากที่โครงการการปรับปรุงกระบวนการก่อนหน้าเสร็จสมบูรณ์แล้ว
- แนะนำวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้โดยอาศัยการคาดเดาด้วยความรู้สึกเป็นหลักแทนที่จะใช้ข้อมูลจริงและหลักฐานที่ยากต่อหาหลักฐานมาหักล้าง
- การเริ่มวิเคราะห์ข้อมูลโดยไม่ตรวจสอบว่าข้อมูลมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ รวมถึงวิธีการรวบรวมและข้อมูลวัดที่ได้
เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ทั้งหมด การเดินตามวิธีการที่ได้รับการรับรองว่าดีแล้วจะช่วยให้ทีมเห็นมุมมองเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น, วิธีการ DMAIC แบ่งเป็นขั้นตอนมาตรฐาน เช่น Define, Measure, Analyze, Improve และ Control
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง : Hitachi’s VP Greg Kinsey explains why Minitab is a primary tool for DMAIC
วิธีการนี้มีประสิทธิภาพมากๆสำหรับปัญหาที่ซับซ้อนมากๆ การแตกปัญหาให้อยู่เป็นขั้นตอนย่อยที่ง่ายต่อการจัดการและด้วยการใช้เครื่องมือมากมายที่หลากหลายและทรงพลัง
ต่อไป : ดูวีดีโอการใช้เครื่องมือชุดใหม่สำหรับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังในการทำให้การวิเคราะห์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างกรอบการแก้ปัญหา เราขอเชิญคุณติดตามตัวอย่างจริงในวิดีโอของการสัมมนาทางเว็บยอดนิยมของเรา Watch now: The New Toolkit for Continuous Improvement
บทความต้นฉบับ : 4 Challenges to Improving Stability in Manufacturing, and How You Can Face Them
ต้นฉบับนำมาจาก Minitab blog , แปลและเรียบเรียงโดยชลทิชา จํารัสพร
บริหารจัดการ SCM Blog โดยชลทิชา จำรัสพร, บริษัท โซลูชั่น เซ็นเตอร์ จํากัด ตัวแทน Minitab ในประเทศไทย
เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท Minitab
Minitab ช่วยให้บริษัทและองค์กรต่างๆ สามารถมองเห็นแนวโน้มของข้อมูล, แก้ปัญหาและค้นพบประเด็นสำคัญจากข้อมูลเชิงลึก โดยนำเสนอชุดโซลูชั่นที่ครอบคลุมทุกด้านและดีที่สุดสำหรับซอฟต์แวร์ในระดับเดียวกัน ที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและการปรับปรุงกระบวนการ
ด้วยวิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ และการนำเสนอซอฟต์แวร์และบริการแบบองค์รวม Minitab ช่วยให้องค์กรเข้าถึงกระบวนการตัดสินใจในส่วนที่ช่วยผลักดันให้เกิดความเป็นเลิศทางธุรกิจได้ดีขึ้น ความง่ายในการใช้งานที่โดดเด่นกว่าใครมีส่วนช่วยให้ Minitab สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเป็นเรื่องที่ง่าย ทีมงานของ Minitab ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างเข้มงวด จะช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งานวิเคราะห์ข้อมูลและพร้อมที่จะให้คำปรึกษาตลอดเวลาที่ใช้งานเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้น รวดเร็ว และแม่นยำ
เป็นเวลากว่า 50 ปีที่ Minitab ได้ช่วยองค์การต่าง ๆ เพิ่มรายได้ ควบคุมและลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ เสริมสร้างความพึงพอใจของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพ ธุรกิจและองค์นับหมื่นทั่วโลกใช้ Minitab Statistical Software®, Companion by Minitab®, Minitab Workspace®, Salford Predictive Modeler® and Quality Trainer® เป็นเครื่องมือช่วยในการค้นพบและปรับปรุงความบกพร่องในกระบวนการ