ฮิสโตแกรมเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสรุปค่าทางสถิติหลายๆตัว แต่ไม่ว่าคุณจะเปิดใช้งาน Data Analysis Toolpak หรือคุณกำลังสร้างสูตรคำนวณ (COUNTIF, AVERAGEs และ STDEVs โอ้พระเจ้า!) เพื่อสร้างฮิสโตแกรมใน Excel มันไม่ได้ยอดเยี่ยมเสมอไป เราได้พัฒนา Minitab Statistical Software เพื่อเป็นเครื่องมือสร้างฮิสโตแกรมของคุณ
มาดูสามวิธีด้วยคำสั่งฮิสโตแกรมใน Minitab ที่คุณสามารถทำได้มากกว่ากัน วิธีแรกเราจะใช้ตัวอย่างเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ(คงทน)ของแขนพ่นเครื่องล้างจาน คุณสามารถดาวน์โหลดชุดข้อมูล(data set)จาก Minitab Data Set Library ได้หากต้องการทำตาม
1. คุณต้องการกำหนดเพียงตัวเลขสองตัวสำหรับช่วงอันตรภาคชั้นของคุณ
อันตรภาคชั้น(Bins) เป็นช่วงระยะที่เท่าๆกันใช้เพื่อจัดเรียงข้อมูลใส่ ฮิสโตแกรมจะแสดงเป็นแท่ง เมื่อคุณป้อนข้อมูลของคุณ Minitab จะทำตามวิธีการสร้างฮิสโตแกรมมาตรฐานที่ค่อนข้างดี ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ต้องตรวจดูอะไรเล็กๆน้อยๆเลยรวมถึงดูว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยส่งผลต่อรูปร่างของฮิสโตแกรมหรือไม่ ฮิสโตแกรมอย่างง่ายของชุดข้อมูลความน่าเชื่อถือ(คงทน)ของแขนพ่นเครื่องล้างจานของเราแสดงได้ดังนี้:
กำหนดอันตรภาคชั้น(bin)ใหม่อย่างง่ายดาย:
- ดับเบิลคลิกที่กราฟ หน้าต่าง Edit Graph กราฟจะเปิดขึ้น
- ดับเบิลคลิกที่แถบ(bar)ใดแถบ(bar)หนึ่ง
- เลือก Binning.
- เลือก Midpoint/Cutpoint positions.
- ในช่อง Midpoint/Cutpoint positions ป้อนจุดกึ่งกลางต่อเนื่องกัน 2 จุดหรือป้อนค่าที่กำหนดอันตรภาคชั้น(bin)เดียวสำหรับข้อมูลของคุณ จากนั้น คลิก OK.
“ป้อนสองค่า?” คุณอาจพูดว่า “แต่ถ้าฉันต้องการให้มีอันตรภาคชั้น(bin)ห้าชั้นบนกราฟของฉัน!”
Minitab ทำให้สิ่งนี้เป็นเรื่องง่าย เมื่อคุณป้อนค่าสองค่า Minitab จะขยายช่วงของอันตรภาคชั้นเพื่อรวมข้อมูลที่เหลือของคุณ ดังนั้นถ้าทั้งหมดที่คุณป้อนคือสองตัวเลข …
… จากนั้น Minitab ทำงานที่เหลือให้คุณ :
การสร้างฮิสโตแกรมใน Excel นั้นค่อนข้างง่าย แต่ด้วยชุดข้อมูลนี้ ช่วงแกน Y จะแคบทั้งหมด และกราฟก็เล็กเกินไปที่จะอ่านและทำความเข้าใจได้ชัดเจน
นอกจากนี้ยังดูได้ไม่ละเอียดเท่าที่ควรและคุณจะพบปัญหาเกี่ยวกับช่วงอันตรภาคชั้นสองสามข้อกับช่วงอันตรภาคที่ไม่ได้รับการจัดการโดยอัตโนมัติสำหรับคุณ
- ด้วยช่วงอันตรภาคชั้นที่ไม่ชัดเจน คุณจึงไม่สามารถแน่ใจได้ว่าค่าเหล่านั้นแสดงระยะทางเท่ากันหรือไม่ ซึ่งจะมีความสำคัญต่อการประเมินการแพร่กระจายและรูปร่างของข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
- เว้นเสียแต่ว่าคุณจะกำหนดอันตรภาคชั้นทั้งหมดของคุณ Excel แสดงแท่งสุดท้ายที่เรียกว่า “เพิ่มเติม(More)” และรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน “เพิ่มเติม(More)” นี้ทำให้ไม่สามารถตัดสินได้ว่าค่าต่างกันแค่ไหน แม้ว่าคุณจะเปลี่ยนค่าที่มากที่สุดจาก 1740.75 เป็น 999999999 คุณจะได้ฮิสโตแกรมที่เหมือนกันทุกประการกับถังขยะที่เหมือนกันทุกประการ
2. คุณสามารถสร้างฮิสโตแกรมที่เปรียบเทียบได้ง่ายโดยใช้ MINITAB ASSISTANT
ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าฮิสโตแกรมช่วยวิเคราะห์คุณลักษณะของข้อมูลตัวอย่างเดียวได้ง่ายเพียงใด แต่คุณรู้หรือไม่ว่าพวกมันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเปรียบเทียบตัวอย่างด้วย
คุณสามารถทำทุกอย่างได้ด้วย Minitab’s Assistant เราจะใช้ชุดข้อมูลอื่นจากไลบรารีสำหรับสิ่งนี้ ข้อมูลแรงบิดในการถอดหมวก(Cap removal torque data) ดาวน์โหลดและเปิดไฟล์ Minitab จากนั้นทำตามคำแนะนำเหล่านี้
- เลือก Assistant > Graphical Analysis
- คลิก Histogram
- ในช่อง Y column, ป้อน Torque
- ในช่อง X column, ป้อน Machine คลิก OK
คุณสามารถลดจำนวนขั้นตอนที่คุณต้องใช้ลงครึ่งหนึ่งเพื่อให้ได้ฮิสโตแกรมที่เปรียบเทียบได้ง่าย ฮิสโตแกรมไม่เพียงจัดเรียงในลักษณะที่ทำให้การเปรียบเทียบง่ายขึ้น แต่ Assistant’s Diagnostic Report ยังเตือนคุณเกี่ยวกับความแตกต่างที่สำคัญบางอย่างที่คุณมองเห็นได้ ข้อมูลมีศูนย์กลางเดียวกันหรือไม่? ข้อมูลมีความแปรปรวนเหมือนกันหรือไม่? จุดศูนย์กลางและความแปรปรวนต่างกันหรือไม่? ในกรณีนี้ ดูเหมือนว่าจุดศูนย์กลางและความแปรปรวนจะต่างกันไปตามแต่ละกลุ่ม
ไม่เป็นไรถ้าคุณยังไม่มี Minitab Statistical Software!
เริ่มการทดลองใช้ฟรี 30 วันของคุณตอนนี้
3. คุณสามารถสร้างฮิสโตแกรมจากข้อมูลนับได้เช่นกัน
บางวันอาจมีใครบางคนให้ข้อมูลแก่คุณที่พวกเขาได้นับมาแทนคอลัมน์ตัวเลขเดียวที่คุณคุ้นเคย ลองนึกภาพถ้าคุณวางลงบนโต๊ะทำงานของคุณโดยมีลักษณะดังนี้:
คนตัวเล็กอาจจะถูกข่มขู่และรังเกียจ ข้อมูลนั้นมีตัวเลขมากกว่า 300 ตัวในนั้น แต่ไม่ใช่คุณ คุณเก่ง Minitab มากจนไม่ต้องพิมพ์ตัวเลขเกิน 300 ตัว คุณสามารถใช้ข้อมูลนั้นได้ในแบบที่เป็นอยู่ ขั้นแรก ป้อนข้อมูลลงใน Minitab:
Length of Stay | Frequency |
5 | 20 |
6 | 20 |
7 | 50 |
8 | 20 |
9 | 10 |
10 | 110 |
11 | 30 |
12 | 20 |
13 | 20 |
14 | 20 |
15 | 0 |
16 | 0 |
17 | 10 |
18 | 0 |
19 | 0 |
20 | 10 |
21 | 0 |
22 | 10 |
23 | 0 |
24 | 20 |
จากนั้นทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- เลือกเมนู Graph > Histogram
- เลือก Simple คลิก OK
- ในช่อง Graph variables, ป้อนคอลัมน์ Length of Stay
- คลิก Data Options
- คลิก Frequency.
- ในช่อง Frequency variable, ป้อนคอลัมน์ Frequency
- คลิก OK สองครั้ง
คุณได้รับฮิสโตแกรมดังนี้:
และจำไว้ว่า หากคุณต้องการเปลี่ยนอันตภาคชั้นรอบๆ คุณสามารถใช้เพียงตัวเลขสองตัว แล้ว Minitab จะดูแลส่วนที่เหลือเอง!
สรุป
ไม่ว่าคุณต้องการสำรวจอันภาคชั้นอย่างรวดเร็ว ทำการเปรียบเทียบระหว่างฮิสโตแกรม หรือสร้างฮิสโตแกรมจากข้อมูลนับ Minitab ทำให้ง่ายและรวดเร็ว ฮิสโตแกรมเต็มไปด้วยข้อมูลที่คุณต้องการในการตัดสินใจที่ดีเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงกระบวนการของคุณ ตอนนี้คุณรู้วิธีใช้ประโยชน์จากฮิสโตแกรมใน Minitab แล้ว
บทความต้นฉบับ : 3 Ways Minitab Makes Plotting Histograms More Automatic and Easier than Excel
ต้นฉบับนำมาจาก Minitab blog , แปลและเรียบเรียงโดยชลทิชา จํารัสพร
บริหารจัดการ SCM Blog โดยชลทิชา จำรัสพร, บริษัท โซลูชั่น เซ็นเตอร์ จํากัด ตัวแทน Minitab ในประเทศไทย
เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท Minitab
Minitab ช่วยให้บริษัทและองค์กรต่างๆ สามารถมองเห็นแนวโน้มของข้อมูล, แก้ปัญหาและค้นพบประเด็นสำคัญจากข้อมูลเชิงลึก โดยนำเสนอชุดโซลูชั่นที่ครอบคลุมทุกด้านและดีที่สุดสำหรับซอฟต์แวร์ในระดับเดียวกัน ที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและการปรับปรุงกระบวนการ
ด้วยวิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ และการนำเสนอซอฟต์แวร์และบริการแบบองค์รวม Minitab ช่วยให้องค์กรเข้าถึงกระบวนการตัดสินใจในส่วนที่ช่วยผลักดันให้เกิดความเป็นเลิศทางธุรกิจได้ดีขึ้น ความง่ายในการใช้งานที่โดดเด่นกว่าใครมีส่วนช่วยให้ Minitab สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเป็นเรื่องที่ง่าย ทีมงานของ Minitab ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างเข้มงวด จะช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งานวิเคราะห์ข้อมูลและพร้อมที่จะให้คำปรึกษาตลอดเวลาที่ใช้งานเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้น รวดเร็ว และแม่นยำ
เป็นเวลากว่า 50 ปีที่ Minitab ได้ช่วยองค์การต่าง ๆ เพิ่มรายได้ ควบคุมและลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ เสริมสร้างความพึงพอใจของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพ ธุรกิจและองค์นับหมื่นทั่วโลกใช้ Minitab Statistical Software®, Companion by Minitab®, Minitab Workspace®, Salford Predictive Modeler® and Quality Trainer® เป็นเครื่องมือช่วยในการค้นพบและปรับปรุงความบกพร่องในกระบวนการ