เมื่อหลายปีก่อน ตอนดึกๆ ลูกชายของผมมีไข้สูง คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายคงรู้ดีว่าไข้มักไม่เกิดขึ้นในเวลาทำการปกติ
เราจึงต้องพาเขาไปห้องฉุกเฉิน พอไปถึงก็เห็นชัดว่าต้องรอนาน หลังจากรอไป 4 ชั่วโมง เราจึงได้พบแพทย์ และโชคดีที่หลังจากได้รับยาไปสองสามวัน ลูกชายผมก็หายเป็นปกติ
ในระหว่าง 4 ชั่วโมงที่รออยู่กับลูกวัย 2 ขวบที่ป่วยและงอแง ผมเคยคิดว่า – จะไปรอหาหมอที่คลินิกฉุกเฉินหรือกุมารแพทย์พรุ่งนี้ดีไหม? หรือควรกลับไปเฝ้าดูอาการเขาข้ามคืนที่บ้านดี? ปรากฏว่าถ้าทำแบบนั้น เขาอาจจะไม่ปลอดภัย และสุดท้ายเขาก็ได้รับการรักษาดูแลที่ดีในคืนนั้น
การที่ผู้ป่วยเดินออกจากห้องฉุกเฉิน (ED) โดยไม่ได้รับการรักษา เป็นปัญหาสำคัญของโรงพยาบาล โดยอัตราการเดินออกมักอยู่ระหว่าง 1% ถึง 8% ของจำนวนผู้ป่วยที่มา ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานพยาบาล ผลกระทบที่เกิดนั้นกว้างไกล ผู้ป่วยที่ออกไปโดยไม่ได้รับการรักษาต้องเผชิญกับความเสี่ยงร้ายแรงต่อสุขภาพ เพราะอาการที่ไม่ได้รับการดูแลอาจลุกลามเป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้ ห้องฉุกเฉินจะเป็นหัวข้อสำคัญที่เราจะหยิบมาพูดคุยในเรื่องนี้ เนื่องจากแผนกอื่นๆมักมีจำนวนเตียงไม่เพียงพอหรือไม่ก็ถูกบล็อกเพราะไม่มีอุปกรณ์เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วย ทุกอย่างเชื่อมโยงกันและเป็นส่วนหนึ่งของ “การคิดเชิงระบบ” หรือ “การจำลองระบบ”
นอกจากนี้โรงพยาบาลยังสูญเสียรายได้เพราะผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการตรวจย่อมไม่ก่อให้เกิดรายได้ นอกเหนือจากผลกระทบโดยตรงเหล่านี้ การที่ผู้ป่วยเดินออกไปแบบที่ยังไม่ได้รับบริการยังเป็นการทำลายชื่อเสียงของโรงพยาบาลและ นำไปสู่การบอกต่อในแง่ลบรวมทั้งทำให้ผู้คนไม่อยากมาใช้บริการในอนาคต
บทบาทของการจำลองสถานการณ์
การลดจำนวนผู้ป่วยที่เดินออกไปต้องใช้วิธีการที่มากกว่าการแก้ไขทีละเล็กละน้อย มันต้องการวิธีการที่เป็นนวัตกรรมและขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ด้วยการรวมซอฟต์แวร์ Simul8 และ Minitab ที่เป็นซอฟต์แวร์ทางสถิติ ซึ่งจะทำให้เราสามารถจำลองสถานการณ์ของห้องฉุกเฉินได้ พูดง่ายๆ คือ การจำลองสถานการณ์แบบเสมือนจริงเพื่อทดสอบและวิเคราะห์กระบวนการหรือระบบที่กำลังทำงาน ในกรณีนี้การจำลองสถานการณ์ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถทดสอบการแทรกแซงในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมได้ เป็นการปรับปรุงการไหลของผู้ป่วยให้ดีขึ้นโดยที่ไม่ไปรบกวนการดำเนินงานประจำวัน
ขั้นตอนที่ 1: การวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตด้วย Minitab
เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลห้องฉุกเฉินในอดีตอย่างละเอียด โดยใช้เครื่องมือใน Minitab Statistical Software เช่น แผนภูมิควบคุม (control charts) การวิเคราะห์อนุกรมเวลา (Time Series analysis) และการถดถอย (Regression) ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลค้นพบรูปแบบการมาของผู้ป่วย เวลารอเฉลี่ย และประเมินการใช้ทรัพยากร
การตรวจสอบข้อมูลประชากรผู้ป่วยและเหตุผลที่ออกไปโดยไม่ได้รับการตรวจ สามารถเผยให้เห็นปัญหาพื้นฐานที่ส่งผลต่อการเดินออก ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ข้อมูลประชากรผู้ป่วยอาจเผยให้เห็นว่าผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่ามีแนวโน้มที่จะออกไปในช่วงดึกมากกว่า เนื่องจากเวลารอที่นานขึ้น ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่ควรจะมีการจัดการบุคลากรให้สามารถรองรับผู้ป่วยได้ครอบคลุม หรือ ปรับปรุงการคัดกรองผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันนี้เป็นพื้นฐานสำหรับการสร้างสมมติฐานเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด
ขั้นตอนที่ 2: การใช้การจำลองสถานการณ์
เมื่อได้ข้อมูลเชิงลึกจากการวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างแบบจำลองของห้องฉุกเฉินด้วย Simul8 การจำลองนี้จะใช้เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริงในแผนก โดยพิจารณาองค์ประกอบสำคัญต่างๆ เช่น:
- รูปแบบการมาของผู้ป่วยและระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน
- การจัดสรรทรัพยากร รวมถึงความพร้อมของแพทย์ พยาบาล และเตียง
- แนวทางการรักษาและตรรกะเบื้องหลังกระบวนการตัดสินใจ
การจำลองนี้จับภาพความซับซ้อนของการดำเนินงานในห้องฉุกเฉิน ซึ่งช่วยให้โรงพยาบาลสามารถทดลองเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้
ต้องการศึกษา Simul8 ที่ใช้การจำลองสถานการณ์เพื่อลดเวลารอของผู้ป่วยได้อย่างไร
ขั้นตอนที่ 3: การทดสอบและปรับปรุงการแทรกแซง
เมื่อสร้างการจำลองสถานการณ์ได้แล้ว มันกลายเป็นสิ่งสำคัญในการสำรวจและทำการทดสอบฉากทัศน์ “จะเป็นอย่างไรถ้า” (“what-if“) ตัวอย่างเช่น การทดสอบด้วยการเพิ่มพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่สนับสนุนในช่วงเวลาเร่งด่วนเพื่อดูว่าจะช่วยลดเวลารอและปรับปรุงการไหลของผู้ป่วยได้หรือไม่ การปรับวิธีการทำงานมาตรฐานในการคัดกรองเพื่อให้ความสำคัญกับกรณีวิกฤตเพื่อดูว่าผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงจะได้รับการดูแลได้เร็วแค่ไหน แม้แต่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆที่ดูเหมือนจะง่าย เช่น การให้อัพเดทข้อมูลแก่ผู้ป่วยที่รออย่างสม่ำเสมอ หรือ การเสนอทางเลือกในการดูแลรักษาอื่นๆ ก็สามารถประเมินได้ว่ามีผลต่อความพึงพอใจโดยรวมและการรักษาผู้ป่วยได้อย่างไร
ประโยชน์ที่สำคัญอีกข้อหนึ่ง คือ แม้แนวคิดที่จะถูกนำมาใช้เป็นแนวคิดที่ล้ำหน้ามากที่สุด จะสามารถนำมากทดลองใช้ได้โดยจะไม่มีความเสี่ยงต่อการดูแลผู้ป่วยเลย
ถ้าคุณต้องการจะดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารโครงการการปรับปรุง Managing improvement projects) เรามีตัวอย่างที่ใช้ Minitab Engage เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (CI – Continuous Improvement) ในโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลเครือข่าย
ขั้นตอนที่ 4: ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลด้วย Minitab
หลังจากทำการจำลองสถานการณ์เหล่านี้แล้ว เครื่องมือทางสถิติของ Minitab จะเข้ามามีบทบาทในการวิเคราะห์ผลลัพธ์ ผ่านการวิเคราะห์การถดถอย การวิเคราะห์ความแปรปรวนและความไว (variance and sensitivity analysis) แผนภูมิควบคุม และแผนภาพกล่อง (box plot) และการแสดงผลแบบอื่นๆ
โรงพยาบาลสามารถระบุการแก้ไขปรับปรุงที่มีผลกระทบมากที่สุดและวัดผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งทำให้มั่นใจว่าเรากำลังทำการตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่แข็งแกร่งแทนที่จะเป็นการคาดเดา
การเก็บข้อมูลใหม่สามารถทำใหม่ทำซ้ำได้ และใช้การทดสอบเพื่อดูว่าการแก้ไขปรับรุงนั้นนำไปสู่ความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติในปัญหาที่ผู้ป่วยเดินออกจากห้องฉุกเฉินหรือไม่
แนวทางสู่การดูแลฉุกเฉินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้วยการใช้ประโยชน์จากความสามารถในการคาดการณ์ของ Minitab และความสามารถในการจำลองสถานการณ์ของ Simul8 ทางโรงพยาบาลสามารถจัดการกับสาเหตุที่แท้จริงของการที่ผู้ป่วยเดินออกจากห้องฉุกเฉิน โดยวิธีการนี้เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้สามารถทดสอบและปรับปรุงการใช้วิธีการแก้ไขได้อย่างละเอียด ทำให้มั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะนำไปสู่การพัฒนาที่มีความหมายในด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย ความมีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และความพึงพอใจโดยรวม ด้วยพลังของการวิเคราะห์ข้อมูลและการจำลองสถานการณ์ โรงพยาบาลสามารถวางแผนแนวทางสู่การดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินได้ดีขึ้นอย่างมั่นใจ
และส่วนที่ดีที่สุดในที่นี้ คือ ทั้งหมดที่กล่าวมาสามารถทำได้ด้วยพลังระดับโลกของ Minitab และ Minitab trainers
คุณสามารถพูดคุยกับ Minitab เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Minitab Statistical Software หรือ Simul8
บทความต้นฉบับ : 4 Steps to Tackling Emergency Department (ED) Walkouts
ต้นฉบับนำมาจาก The Minitab Blog, แปลและเรียบเรียงโดยสุวดี นําพาเจริญ
บริหารจัดการ SCM Blog โดยชลทิชา จํารัสพร, บริษัท โซลูชั่น เซ็นเตอร์ จํากัด ตัวแทน Minitab ในประเทศไทย

เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท Minitab
Minitabช่วยให้บริษัทและองค์กรต่างๆ สามารถมองเห็นแนวโน้มของข้อมูล, แก้ปัญหาและค้นพบประเด็นสำคัญจากข้อมูลเชิงลึก โดยนำเสนอชุดโซลูชั่นที่ครอบคลุมทุกด้านและดีที่สุดสำหรับซอฟต์แวร์ในระดับเดียวกัน ที่ใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและการปรับปรุงกระบวนการ
ด้วยวิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ และการนำเสนอซอฟต์แวร์และบริการแบบองค์รวม Minitab ช่วยให้องค์กรเข้าถึงกระบวนการตัดสินใจในส่วนที่ช่วยผลักดันให้เกิดความเป็นเลิศทางธุรกิจได้ดีขึ้น ความง่ายในการใช้งานที่โดดเด่นกว่าใครมีส่วนช่วยให้ Minitab สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเป็นเรื่องที่ง่าย ทีมงานของ Minitab ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างเข้มงวด จะช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งานวิเคราะห์ข้อมูลและพร้อมที่จะให้คำปรึกษาตลอดเวลาที่ใช้งานเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้น รวดเร็ว และแม่นยำ
เป็นเวลากว่า 50 ปีที่ Minitab ได้ช่วยองค์การต่าง ๆ เพิ่มรายได้ ควบคุมและลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพ เสริมสร้างความพึงพอใจของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพ ธุรกิจและองค์นับหมื่นทั่วโลกใช้ Minitab Statistical Software®, Companion by Minitab®, Minitab Workspace®, Salford Predictive Modeler® and Quality Trainer® เป็นเครื่องมือช่วยในการค้นพบและปรับปรุงความบกพร่องในกระบวนการ